ไฟไหม้รถเก๋งตร.สงขลาวอดทั้งคัน คาดระบบไฟลัดวงจร
เกิดเหตุไฟลุกไหม้รถเก๋งของเจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันปราบปราม สภ.คอหงส์ วอดทั้งคัน คาดระบบสายไฟลัดวงจร ชาวบ้านบ่น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช้า
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 24 ก.ย.59 พ.ต.ท.วโรดม ก้องสุวรรณคีรี สารวัตรสอบสวน สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟลุกไหม้รถยนต์เก๋ง ภายในซอย21หน้าบ้านเลขที่41/197ถนนนิพัทธิ์สงเคราะห์1เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จึงประสานขอรถดับเพลิงจากเทศบาลนครหาดใหญ่ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพหาดใหญ่ เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุภายในซอยพบเพลิงกำลังลุกไหม้จากห้องเครื่องยนต์ด้านหน้า ซึ่งเป็นรถเก๋ง ยี่ห้อนิสสัน สีบรอนด์เงิน ทะเบียน กม 5953 สงขลา ก่อนจะไหม้ลุกลามทั้งคันอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้โดยใช้เวลาเกือบ 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบพบว่ารถเก๋งคันดังกล่าวถูกไฟไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังทำให้ชาวบ้านพากันบ่นถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่มาช้า จนรถถูกไหม้เกือบหมดแล้วเจ้าหน้าที่พึ่งมาถึงที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวน ด.ต.ประวิทย์ ฉุ้นประดับ ตำแหน่งเป็น ผบ.หมู่ งานป้องกันปราบปราม สภ.คอหงส์ ซึ่งเป็นเจ้าของรถเก๋ง ให้การว่า ขณะเกิดเหตุกำลังขับรถเก๋งกลับบ้านที่อยู่ภายในซอย ถึงที่เกิดเหตุมีกลุ่มควันลอยขึ้นมาจากห้องเครื่องยนต์พร้อมกับมีเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงจอดรถทิ้งหนีออกมาได้ทัน ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยดับไฟ เบื้องต้นคาดว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากระบบสายไฟในห้องเครื่องลัดวงจรจนเกิดไฟไหม้ขึ้น เนื่องจากรถคันดังกล่าวมีสภาพเก่าและเคยติดแก๊สมาก่อน แต่ได้ถอดระบบแก๊สออกเปลี่ยนมาใช้น้ำมันแทนจนเกิดไฟไหม้เสียหายทั้งคันดังกล่าว
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 24 ก.ย.59 พ.ต.ท.วโรดม ก้องสุวรรณคีรี สารวัตรสอบสวน สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟลุกไหม้รถยนต์เก๋ง ภายในซอย21หน้าบ้านเลขที่41/197ถนนนิพัทธิ์สงเคราะห์1เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จึงประสานขอรถดับเพลิงจากเทศบาลนครหาดใหญ่ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพหาดใหญ่ เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุภายในซอยพบเพลิงกำลังลุกไหม้จากห้องเครื่องยนต์ด้านหน้า ซึ่งเป็นรถเก๋ง ยี่ห้อนิสสัน สีบรอนด์เงิน ทะเบียน กม 5953 สงขลา ก่อนจะไหม้ลุกลามทั้งคันอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้โดยใช้เวลาเกือบ 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบพบว่ารถเก๋งคันดังกล่าวถูกไฟไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังทำให้ชาวบ้านพากันบ่นถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่มาช้า จนรถถูกไหม้เกือบหมดแล้วเจ้าหน้าที่พึ่งมาถึงที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวน ด.ต.ประวิทย์ ฉุ้นประดับ ตำแหน่งเป็น ผบ.หมู่ งานป้องกันปราบปราม สภ.คอหงส์ ซึ่งเป็นเจ้าของรถเก๋ง ให้การว่า ขณะเกิดเหตุกำลังขับรถเก๋งกลับบ้านที่อยู่ภายในซอย ถึงที่เกิดเหตุมีกลุ่มควันลอยขึ้นมาจากห้องเครื่องยนต์พร้อมกับมีเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงจอดรถทิ้งหนีออกมาได้ทัน ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยดับไฟ เบื้องต้นคาดว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากระบบสายไฟในห้องเครื่องลัดวงจรจนเกิดไฟไหม้ขึ้น เนื่องจากรถคันดังกล่าวมีสภาพเก่าและเคยติดแก๊สมาก่อน แต่ได้ถอดระบบแก๊สออกเปลี่ยนมาใช้น้ำมันแทนจนเกิดไฟไหม้เสียหายทั้งคันดังกล่าว
No comments:
Post a Comment