Tuesday, October 25, 2016

ข่าวหน้า1 “กราบพระบรมศพ เริ่ม 29ต.ค. 8 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม วันละหมื่นคน”

เริ่ม29ตุลา-วันละหมื่นคน พระบรมฯทรงมอบอาหาร ต้องดี-อร่อยให้?พสกนิกร? นายกฯลาว-ปธน.สิงคโปร์ วางพวงมาลาแสดงอาลัย นายร้อยจปร.ถวายบังคม
ปธน.สิงคโปร์-นายกฯลาววางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมศพ ปีติสมเด็จพระบรมฯพระราชทานอาหารวันละ 1.5 หมื่นชุด เผยรับสั่งพสกนิกรเป็นแขกของพระองค์ต้องได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
@ ทูลกระหม่อมฯถวายพระราชกุศล
เมื่อเวลา 07.03 น. วันที่ 24 ตุลาคม ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่สิบเอ็ดของพระราชพิธี จากนั้นทรงวางพวงมาลา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย หน้าพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงกราบ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประทับยืนแบบสมภังค์ แสดงปางห้ามญาติหรืออภัยมุทราด้วยพระหัตถ์ขวาเพียงข้างเดียว ที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร จากนั้นประเคนสำรับภัตตาหารแด่พระพิธีธรรม 8 รูปจากวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร และวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ที่สวดพระอภิธรรมมาตั้งแต่ค่ำวันที่ 23 ตุลาคม
@ พระบรมฯทรงบำเพ็ญพระราชกุศล
เวลา 19.07 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดมหาธาตุยุวราช
รังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร และวัดราชสิทธารามราชวรวิหาร
ขณะที่เวลา 21.00 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ มาบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
@ พสกนิกรต่อแถวเข้าสักการะ
จากนั้นเวลา 08.30 น. ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง สำนักพระราชวังเปิดให้พสกนิกรเข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามสมุดหลวงเพื่อถวายความอาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ระหว่างเวลา 08.30-16.00 น. เป็นวันที่ 10 ช่วงเช้ามีพสกนิกรพร้อมใจใส่ชุดสีดำมานั่งต่อแถวรอก่อนเวลาเปิดให้เข้าถวายสักการะ ครั้นพอถึงเวลาพสกนิกรจากทั่วประเทศทยอยมาเข้าต่อแถวจนยาวออกไปนอกพระบรมมหาราชวังที่ประตูวิเศษไชยศรี ถึงถนนหน้าพระธาตุ ไปหน้าวัดมหาธาตุฯ ก่อนวกกลับท้ายแถวอยู่ภายในสนามหลวงขึ้นไปทางทิศใต้ยาวกว่า 3 กิโลเมตร
ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้จัดแถวตอนเรียง 4 ทยอยเข้าเป็นชุดๆ เพื่อให้พสกนิกรได้เข้าอย่างทั่วถึง
กระทั่งเวลา 16.10 น. สำนักพระราชวังปิดถวายสักการะ มีประชาชนที่เข้ามาถวายสักการะและลงนามถวายอาลัย จำนวน 46,051 คน รวม 10 วันมีทั้งสิ้น 334,934 คน และมียอดเงินที่ประชาชนทูลเกล้าฯถวายในการบำเพ็ญพระราชกุศลวันนี้จำนวน 1,182,595 บาท รวม 10 วันมีทั้งสิ้น 6,662,549.25 บาท
@ นายร้อยจปร.ถวายสักการะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะนักเรียนนายร้อยโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) กองวิชากฎหมายและสังคมศาสตร์ นำโดย พ.อ.ภานุวัตร อาด่า ผู้อำนวยการกองวิชา นำนักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 2-4 พร้อมคณะอาจารย์รวม 95 นาย มาต่อแถวพร้อมประชาชน รอกว่า 3 ชั่วโมงถึงได้เข้าถวายสักการะ ก่อนออกมาที่สนามหญ้าด้านหน้าศาลาสหทัยสมาคม เพื่อตั้งแถวคุกเข่าถวายสักการะอีกครั้งก่อนเดินทางกลับ
นักเรียนนายร้อยเจษฎา บุญทอง พร้อมด้วยนักเรียนนายร้อยภคพล สามเพียร ชั้นปีที่ 3 กล่าวว่า พระองค์ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้ตนสอบมาเป็นนักเรียนนายร้อย เมื่อได้เห็นภาพที่พระองค์กำลังเสด็จฯตรวจแถวในพิธีสวนสนามราชวัลลภในวันที่ 4 ธันวาคม เมื่อพอได้มาเรียน พวกเรายังเรียนกับทูลกระหม่อมอาจารย์ (สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี) ทรงพานักเรียนนายร้อยไปศึกษาดูงานสถานที่ต่างๆ เช่น
สวนจิตรลดา ทำให้ได้เห็นโครงการพระราชดำริต่างๆ ได้ศึกษาสิ่งที่พระองค์ได้ทรงงานมา เกิดเป็นความประทับใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย ภูมิใจที่ได้อยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารที่ทรงมีพระปรีชาสามารถในหลายๆ ด้าน
“พวกเราจะตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทั้งการเรียน การทำงานในภายภาคหน้า ฝากถึงคนรุ่นใหม่ให้รู้จักหน้าที่ตนเอง อย่าทำในสิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่ มารักกัน อย่างที่พระองค์ทรงอยากให้คนไทยรักกัน” นักเรียนนายร้อยเจษฎากล่าว
@ นายกฯลาววางพวงมาลาถวาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันมีผู้นำและบุคคลสำคัญจากต่างประเทศ เดินทางมาวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง และลงนามถวายความอาลัย ณ ศาลาพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง ต่อเนื่องตามลำดับ ได้แก่ นายโทนี่ ตัน เคง ยัม ประธานาธิบดีสาธารณรัฐสิงคโปร์และนางเมรี ตัน ภริยา, นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และนางนาลี สีสุลิด ภริยา
เวลา 11.00 น. ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เป็นประธานถวายภัตตาหารเพล แด่พระพิธีธรรมจากวัดบวรนิเวศวิหาร และวัดจักรวรรดิราชาวาส ที่มาสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ
@ ปีติพระบรมฯพระราชทานอาหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงห่วงใยพสกนิกรที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ และลงนามแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นำอาหาร ขนม ผลไม้ และน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้ประชาชน โดยตั้งอยู่บริเวณทิศใต้ของท้องสนามหลวง ฝั่งติดถนนหน้าพระลาน ด้านหน้าพระบรมมหาราชวัง สำหรับอาหารพระราชทานมี 3 เวลา ประกอบด้วย อาหารเช้า เวลา 07.30 น. จำนวน 5,000 ชุด อาหารกลางวัน เวลา 11.30 น. จำนวน 5,000 ชุด และอาหารเย็น เวลา 15.30 น. จำนวน 5,000 ชุด
@ รับสั่งพสกนิกรเป็นแขกพระองค์
เจ้าหน้าที่ทหารมหาดเล็กฯ เปิดเผยว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร รับสั่งว่า พสกนิกรที่มาเป็นแขกของพระองค์ ฉะนั้นต้องทำให้พสกนิกรได้รับความสะดวกสบายที่สุด ได้รับสิ่งที่ดีที่สุด จึงได้พระราชทานอาหารโดยรับสั่งว่า ต้องดี ต้องอร่อย เมนูปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมแต่ละวัน เช่น ข้าวขาหมูตรอกซุง ข้าวแกงต่างๆ ก๋วยเตี๋ยว ซึ่งแต่ละมื้อจะนำมาจากร้านที่มีชื่อเสียง 2 ร้าน ร้านละ 2,500 ชุด แจกร่วมไปกับน้ำดื่มและน้ำสมุนไพรที่เตรียมไว้ 500 ลิตร เช่น น้ำกระเจี๊ยบ เก๊กฮวย พร้อมขนมจากร้านมีชื่อเสียง และขนมจากร้านสวัสดิการข้าราชบริพารในพระองค์ เช่น ซาลาเปานพเก้า ตลอดจนผลไม้ต่างๆ นอกจากนี้ ยังจัดแพทย์อาสามาให้บริการพสกนิกรที่มาอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แต่ละช่วงที่มีการแจกอาหารและน้ำดื่มพระราชทาน จะมีประชาชนยืนต่อแถวรับด้วยรอยยิ้ม ขณะที่หลังโต๊ะแจกอาหารจะเป็นจุดบริการทางการแพทย์ คอยดูแลพสกนิกรที่เป็นลม วิงเวียนศีรษะ แจกยาดม แอมโมเนีย ให้พสกนิกรที่อยู่ในแถวรอเข้าถวายสักการะในท้องสนามหลวง
@ พระองค์โสมฯทอดไก่ประทาน
เวลา 14.00 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พร้อมด้วย ม.ล.สราลี กิติยากร พระขนิษฐาในพระองค์ เสด็จเป็นการส่วนพระองค์มายังรถเคลื่อนที่ของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ซึ่งจอดอยู่ริมรั้วด้านหน้ากรมศิลปากร ถนนหน้าพระธาตุ เพื่อทรงทอดไก่ประทานพร้อมข้าวเหนียว ให้แก่พสกนิกรที่มาลงนามถวายความอาลัย ได้เตรียมไก่ทอดประทาน จำนวน 1,500 กิโลกรัม และข้าวเหนียวประทาน 500 กิโลกรัม และนับเป็นครั้งที่ 3 ที่ทรงทอดไก่ประทานพร้อมข้าวเหนียว ระหว่างที่ทรงทอดไก่นั้น ด.ช.วาทกานต์ ดะห์สัน อายุ 13 ปี นักเรียนจากโรงเรียนสารสาสน์ประชาอุทิศพิทยาคาร นำพระฉายาลักษณ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ มาทูลเกล้าฯ ถวาย โดยมีรับสั่งขอบใจ กับ ด.ช.วาทกานต์
@ ทรงขอบคุณคนไทยที่สามัคคี
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ รับสั่งว่า เลือกเมนูนี้ เพราะเห็นว่า ทำอะไรที่ง่ายๆ เร็ว ทานได้เร็ว แล้วก็ไม่เสียง่าย ต้องขอบคุณประชาชนที่รวมน้ำใจมาถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ท่านทรงทราบด้วยดวงพระวิญญาณ ท่านคงชื่นใจ พระองค์หญิงทำทุกอย่างให้ประชาชนด้วย แล้วก็ทำถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชด้วย ที่พระองค์หญิงออกมาเพื่อทำถวายพระองค์ท่าน เพราะมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากก็ช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว ที่น้ำท่วม ครั้งนี้ในกรณีที่ทำถวายพระองค์ท่าน ประชาชนมากันเยอะมาก บางคนไม่มีอาหารรับประทาน น้ำดื่ม เราก็ช่วยกันจัดถวาย ต้องขอบคุณผู้ที่นำอาหารมาแจกกันแต่ละที่ คนไทยได้ร่วมกัน สามัคคีกันในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ต้องขอบคุณทุกส่วน ทั้งหน่วยราชการ ประชาชน มูลนิธิก็เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ทำถวาย
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ รับสั่งอีกว่า “ต้องใช้คำพระว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ขอให้ทุกคนระลึกถึงคำพระราชดำรัส ที่ทรงสอนในเรื่องการเกษตร การพอเพียง เป็นสิ่งที่เป็นจริง ใช้ได้จริง และสำเร็จจริง เพราะว่ามูลนิธิเองก็ยึดพระราชดำรัสนี้ ใส่เกล้าและปฏิบัติให้ประชาชนเหมือนกัน พระองค์หญิงคิดว่าอะไรที่สองบ่าของพระองค์หญิง สองแขนช่วยอะไรได้ ช่วยด้วยใจ ต้องขอบคุณประชาชน และพระองค์หญิงเห็นการแสดงความจงรักภักดีของประชาชนถวายแด่องค์ในหลวงของเรา”
ขณะที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานลองกองแจกประชาชน 3 จุด ได้แก่ เต็นท์ของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย มูลนิธิร่วมกตัญญู และโรงเรียนจิตรลดา เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนที่เดินทางมาร่วมแสดงความอาลัยด้วย
@ ตร.ตั้งเครื่องสแกน8จุด
ที่บริเวณท้องสนามหลวง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจนำเครื่องสแกนวัตถุต้องสงสัย เพื่อตรวจจับสิ่งแปลกปลอมทั้งหมด 8 จุด รอบสนามหลวง จุดละ 3-4 เครื่อง
พ.ต.ต.วันเผด็จ หงษ์ทอง สวป.สน.หัวหมาก ผู้รับผิดชอบจุดตรวจบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เปิดเผยว่า แต่ละจุดจะมีเจ้าหน้าที่ 10-15 นาย คอยตรวจและอำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง ขณะนี้ยังไม่พบสิ่งแปลกปลอมและอันตรายแต่อย่างใด
ที่บริเวณจุดบริการประชาชน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม.) พร้อมตำรวจในสังกัด บช.ก.นำน้ำดื่ม เครื่องดื่มผลไม้ มาแจกจ่ายฟรีให้กับประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติ
@ ‘อ้น-เข็ม-แอม’ร่วมใจแจกน้ำ
เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณโดยรอบท้องสนามหลวงยังคงมีหน่วยงานต่างๆ นำขนม อาหารกล่อง และน้ำดื่มมาแจก และมีดารานักแสดงชื่อดัง อาทิ นายสราวุธ มาตรทอง หรืออ้น กฤตธีรา อินพรวิจิตร หรือเข็ม และนายธัญวิสิฎฐ์ เสียงหวาน หรือแอม มาร่วมแจกจ่ายน้ำดื่ม ยากันยุง และยาดม ให้กับประชาชน บริเวณเต็นท์กองอำนวยการของตำรวจท่องเที่ยวด้านถนนหน้าพระลาน
นายสราวุธกล่าวว่า “วันนี้หยุดงาน จึงรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ โดยมีพี่เข็ม และน้องแอม มาร่วมกับตำรวจแจกยาดม ยากันยุง น้ำดื่มให้กับประชาชน”
@ รองมทภ.1เผยรองรับวันละหมื่นคน
ที่กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย (กอร.รส.) บริเวณสนามหลวง พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 รับมอบหมายให้ดูแลความเรียบร้อยและการจราจรโดยรอบพระบรมหาราชวัง กล่าวถึงการอำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเดินทางสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 29 ตุลาคม ว่า ประชุมร่วมกับสำนักพระราชวังแล้ว จะเปิดให้เข้าสักการะพระบรมศพเป็นช่วงเวลา เนื่องจากจะมีการประกอบพระราชพิธีควบคู่ไปด้วย กอร.รส.จะอำนวยความสะดวกให้มากที่สุด คาดว่าจะเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพได้ประมาณ 1 หมื่นคนต่อวัน จะพยายามจัดคิวให้เป็นระเบียบมากที่สุด
@ แจงเลื่อนวันถวายสักการะ
ที่สนามหลวง พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน นางวรรณวิไล พรหมลักขโณ นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าฯกทม. และ น.ส.ตรีดาว อภัยวงศ์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯกทม. แถลงข่าวหลังประชุม กอร.รส ร่วมกับหลายหน่วยงาน
น.ส.ตรีดาวกล่าวว่า พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ ประธานการประชุมแจ้งว่าขอประกาศเลื่อนเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง จากเดิมที่แจ้งว่าให้เข้าถวายสักการะพระบรมศพในช่วงบ่ายวันที่ 28 ตุลาคม ขอเปลี่ยนแปลงเป็นวันที่ 29 ตุลาคม เนื่องจากในวันที่ 28 ตุลาคม มีพระราชพิธีในพระบรมมหาราชวังในช่วงเช้าและเวลาที่เปิดให้ประชาชนช่วงบ่ายอาจน้อยเกินไป ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร
น.ส.ตรีดาวกล่าวอีกว่า กทม.ได้เพิ่มเต็นท์กลางสนามหลวงเพื่อเป็นจุดพักคอยแก่ประชาชน เป็นเต็นท์ขนาดใหญ่ มีที่นั่งพัก 900 ที่นั่ง จำนวน 2 หลัง พร้อมทั้งเพิ่มเต็นท์สำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ รวมทั้งรถสุขาสำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ จำนวน 2 คัน ปัจจุบัน กทม.ได้จัดรถสุขาไว้จำนวน 36 คัน รองรับประชาชนได้เพียงพอ
@ ให้รถขนอาหารเข้าก่อน05.30น.
นายทวีศักดิ์กล่าวว่า ขอความร่วมมือประชาชนให้เดินทางมาท้องสนามด้วยระบบขนส่งมวลชน ซึ่งมีจุดหลักที่บริเวณโรงแรมรัตนโกสินทร์ กองสลากเดิม ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า และกรมการรักษาดินแดน
(สวนเจ้าเชตุ) โดย กทม.จัดรถประจำทางสำหรับรับส่งประชาชนแล้ว ขณะนี้ไม่อนุญาตให้รถทั่วไปจอดในพื้นที่สนามหลวง กรณีรถที่เข้ามาขนส่งวัตถุดิบนั้นจะอนุญาตให้เข้ามาบริเวณท้องสนามหลวงก่อนเวลา 05.30 น.
และหากหลังจากนั้นขอให้ประชาชนที่นำอาหารมาบริจาคนำรถไปจอดที่สนามม้านางเลิ้ง แล้วทาง กทม.จะมีรถช่วยขนย้ายวัตถุดิบให้และบริการรับ-ส่งฟรี เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดโดยรอบ
@ แจงระเบียบเข้าสักการะ
เวลา 16.00 น. สำนักพระราชวังแจ้งระเบียบการเข้าเฝ้าฯ ถวายสักการะหน้าพระบรมโกศว่า สำนักพระราชวังได้รับพระราชานุญาตในการเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ดังนี้
1.ในวันที่ 28 ตุลาคม สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามถวายความอาลัย ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น.
2.พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายหลังพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป เวลา 08.00-21.00 น. ทุกวัน (ยกเว้นช่วงมีพระราชพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท)
การแต่งกาย โปรดแต่งกายสุภาพไว้ทุกข์สีดำ ชุดชาวสำหรับชาวเขา ชุดลูกเสือสำหรับลูกเสือ ชุดนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่ถูกต้องตามระเบียบของสถานศึกษานั้นๆ สุภาพบุรุษขอความกรุณาสวมเสื้อมีปกสีดำ กางเกงขายาวสีดำ งดเว้นกางเกงยีนส์ รองเท้าหุ้มส้นสีดำ สุภาพสตรีสวมชุดสุภาพสีดำ มีแขน ไม่รัดรูป กระโปรงยาวคลุมเข่าหรือผ้าถุง งดเว้นกระโปรงยีนส์ รองเท้าหุ้มส้นสีดำ นอกจากนี้ สำนักพระราชวังยังแจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคมเป็นต้นไป ไม่มีการลงนามถวายความอาลัย
@ ตั๊นมอบของให้ตร.แจกชาวบ้าน
เวลา 16.30 น. ที่เต็นท์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บริเวณท้องสนามหลวง น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร หรือ ตั๊น อดีตแนวร่วมคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) มอบของสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่
น.ส.จิตภัสร์กล่าวว่า มามอบสิ่งของ อาทิ ผ้าขนหนู ขนม และน้ำเกลือแร่ ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แจกจ่ายให้กับประชาชน เนื่องจากมีเพื่อนเป็นพยาบาลประจำเต็นท์ จึงพอจะทราบว่ามีของสิ่งใดที่ขาด รู้สึกประทับใจในพลังของประชาชนเป็นอย่างมาก ขอให้ประชาชนชาวไทยสามัคคีแบบนี้ตลอดไป
@ เผย2วันป่วย92,464คน
ทางด้าน ศูนย์ปฏิบัติการร่วมการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ กทม. รายงานผลการปฏิบัติการด้านการแพทย์ว่า มีผู้รับบริการหน่วยแพทย์และปฐมพยาบาลประจำวันที่ 22-23 ตุลาคม ทั้งสิ้น 92,464 คน แบ่งเป็น วันที่ 22 ตุลาคม บริการ 34,575 ราย โดย 1.เป็นลม ตะคริว อุบัติเหตุ และอื่นๆ (เวียนศีรษะ ท้องเสีย) 1,302 ราย 2.ปฐมพยาบาล แจกยาดมและแอมโมเนีย ทำแผล ขอยา (ยาแก้ปวด ยานวด เกลือแร่ พลาสเตอร์) และบริการอื่นๆ 31,632 ราย 3.ตรวจโรคและรักษา เช่น ระบบทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร กล้ามเนื้อและกระดูก ท้องเสีย ปวดท้อง แพ้ผื่นคัน เหนื่อยอ่อนเพลีย และอื่นๆ 1,317 ราย 4.นำส่งโรงพยาบาล 52 ราย และ 5.ประเมินสุขภาพทางจิต เช่น อาการโศกเศร้า ซึมเศร้า ฯลฯ 272 ราย วันที่ 23 ตุลาคม 57,889 ราย มีอาการ 1.เป็นลม อุบัติเหตุ อื่นๆ 635 ราย 2.ปฐมพยาบาลด้วยการแจกยาดม/แอมโมเนีย ทำแผล ขอยา 53,298 ราย 3.ตรวจโรคและรักษา เช่น ระบบทางเดิน หายใจ ทางเดินอาหาร ท้องเสีย ปวดท้อง เหนื่อยอ่อนเพลีย 3,387 ราย 4.นำส่งโรงพยาบาล 16 ราย และ 5.ประเมินสุขภาพทางจิต 553 ราย
@ มท.1ย้ำผู้ว่าฯนำปชช.เข้ากรุง
สำหรับกรณี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีนโยบายอำนวยความสะดวกประชาชนจากต่างจังหวัดในการเดินทางเข้ามากราบบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยให้กรมการปกครองประสานกับหน่วยงานทั้งส่วนกลางและภูมิภาค กำหนดเป้าหมายจำนวนคนจากจังหวัดต่างๆ วันละ 5 จังหวัด จังหวัดละ 600 คน รวมวันละ 3,000 คน เป็นเวลา 79 วัน และกำหนดวันละ 6 จังหวัด จังหวัดละ 600 คน รวมวันละ 3,600 คน เป็นเวลา 5 วัน รวม 84 วัน ตั้งแต่ 29 ตุลาคม 2559 – 20 มกราคม 2560 รวมทั้งสิ้น 255,000 คน นั้น
นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ส่งข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ถึงผู้ว่าฯทุกจังหวัด สรุปได้ดังนี้ 1.โครงการนี้เป็นโครงการอำนวยความสะดวกตามความสมัครใจของประชาชนที่ประสงค์จะเดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ ดังนั้น ประชาชนที่ประสงค์จะเดินทางด้วยตนเอง หรือเดินทางไปเป็นกลุ่มก็ได้ไม่ได้ปิดกั้น 2.ตัวเลขวันละ 600 คนต่อจังหวัด รวม 3,000 คนต่อวันนั้น เป็นการคำนวณประมาณการ จำนวนคนที่เพียงพอต่อการเข้าไปในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เมื่อรวมกับประชาชนทั่วไปอีกประมาณวันละ 5,000 คน แต่หากเข้าไปได้มากกว่าตัวเลขประมาณการจะปรับจำนวนอีกครั้ง 3.งบประมาณการเดินทางอยู่ระหว่างที่กรม สถ.จัดทำแนวทางการขอรับการสนับสนุนจาก อปท.ในพื้นที่ 4.ขอให้ผู้ว่าฯ และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบได้ศึกษาแนวทางโครงการอำนวยความสะดวกประชาชน เพื่อจะได้เข้าใจขั้นตอนการ ปฏิบัติและสามารถชี้แจงกับประชาชนในจังหวัดได้ทราบ
@ ลงนามแสดงความอาลัยเกือบ3ล.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงมหาดไทยสรุปยอดการจัดกิจกรรมลงนามแสดงความอาลัยและการจัดกิจกรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ทั่วประเทศ ข้อมูล ณ วันที่ ประชาชนลงนามแสดงความไว้อาลัย วันที่ 21 ตุลาคม มีจำนวน 389,061 ราย-ประชาชนลงนามแสดงความไว้อาลัย วันที่ 22 ตุลาคม จำนวน 155,011 ราย-ประชาชนลงนามแสดงความไว้อาลัย วันที่ 23 ตุลาคม จำนวน 137,997ราย ทั้งนี้ มียอดสะสมการลงนามแสดงความไว้อาลัยตั้งแต่วันที่ 14-23 ตุลาคมที่ผ่านมา จำนวนทั้งสิ้น 2,944,934 ราย กิจกรรมเพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เฉพาะวันที่ 23 ตุลาคม กิจกรรมสวดพระอภิธรรม มีผู้เข้าร่วม 177,142 คน-กิจกรรมทำบุญตักบาตร มีผู้เข้าร่วมจำนวน 31,514 คน-กิจกรรมอื่นๆ จำนวน 28,989 คน
@ กำนัน-ผญบ.พร้อมคัดเลือก
นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กรมการปกครองจะมอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้พิจารณาดำเนินการคัดเลือกประชาชนที่มีความพร้อมตามแนวทางของแต่ละจังหวัด อาจจะให้ประชาชนที่สนใจสมัครจากนั้นนำมาคัดเลือกในภายหลัง จะต้องทำความเข้าใจตามหลักเกณฑ์ ความเหมาะสมที่กำหนดสำหรับบุคคลที่มีความพร้อมทั้งชุดแต่งกาย ไม่เป็นโรคประจำตัว
นายชาตรี จันทร์วีระชัย นายอำเภอกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สำหรับการคัดเลือกประชาชนในแต่ละอำเภอจะเป็นหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จากนั้นเมื่อได้ครบตามจำนวนแล้ว จะมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ร่วมกันจัดสรรงบประมาณในการเดินทาง
@ ขอมท.เน้นการมีส่วนร่วม
นายธีรศักดิ์ พานิชวิทย์ เลขาธิการสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การคัดเลือกตัวบุคคล ผู้บริหาร อปท.จะต้องมีส่วนร่วมกับผู้นำท้องที่ร่วมกันเลือกจากผู้นำองค์กรชุมชน เช่น กลุ่มสตรีแม่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุข ตัวแทนผู้พิการ และต้องทำความเข้าใจกับประชาชนส่วนใหญ่ผู้ที่พลาดโอกาสในช่วงแรก เชื่อว่าจะมีจำนวนมาก
“ดังนั้น นโยบายของกระทรวงมหาดไทยควรมีแนวคิดในการทำกิจกรรมระดับตำบลเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมและทั่วถึง เน้นการมีส่วนร่วม เพื่อให้ประชาชนทุกตำบลมีมีส่วนร่วมเพื่อร่วมแสดงความอาลัยในระดับพื้นที่” นายธีรศักดิ์กล่าว
@ บิ๊กตู่ปลื้มตปท.ยึดศก.พอเพียง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวปราศรัยทางวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เนื่องในวันสหประชาชาติว่า เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 71 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา พร้อมกล่าวถ้อยแถลงในหัวข้อ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน แรงผลักดันสากลเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกของเรา ได้กล่าวถึงการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มาประยุกต์ใช้กับการพัฒนาประเทศและได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านความร่วมมือทวิภาคีและไตรภาคี และการสร้าง เชื่อมโยงหุ้นส่วนด้านการพัฒนาผ่านกรอบความร่วมมือภูมิภาคต่างๆ อาทิ อาเซียน เอซีดี รวมถึงการผสานความร่วมมือระหว่างกลุ่ม 20 กับ กลุ่ม 77
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ประธานสมัชชาสหประชาชาติได้กล่าวถวายคำไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่ประชุมของประเทศสมาชิก 193 ประเทศได้ยืนสงบนิ่งเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชด้วย นานาประเทศล้วนประจักษ์ในพระปรีชาสามารถในด้านการพัฒนา และมีอีกหลายประเทศที่กล่าวถวายการยกย่องว่า ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นผู้นำอย่างแท้จริง หลักการเรื่องการพัฒนาของพระองค์ท่านได้รับการยอมรับและนำไปปรับใช้ในกว่า 20 ประเทศทั่วโลกด้วย
“ประเทศต่างๆ ที่ได้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ ได้แสดงความขอบคุณไทย เช่น ติมอร์-เลสเต อินโดนีเซีย ลาว อัฟกานิสถาน เลโซโท ซิมบับเว และนิการากัว ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจของไทยในการแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีไปสู่ระดับสากล” นายกฯกล่าว

No comments:

Post a Comment