Monday, September 19, 2016

น้ำท่วมสุโขทัยคลี่คลาย แต่ยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง

น้ำท่วมสุโขทัยคลี่คลาย แต่ยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง

ฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องทำให้พื้นที่ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือมีน้ำท่วมสูง อีกหลายจังหวัด ต่างเตรียมพร้อมรับมือมวลน้ำ ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วม โดยเฉพาะเมื่อยังมีฝนตกหนัก โดยเฉพาะอ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา น้ำท่วมสูง 20-50 ซม. บ้านเรือนกว่า 2,000 หลัง ได้รับผลกระทบ
วันนี้ (19 ก.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกหนักในช่วงที่ผ่านมา ทำให้น้ำจากลำน้ำร่องช้าง ในอ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ไหลเข้าท่วมขตเทศบาลเมืองดอกคำใต้เป็นระลอกที่สอง หลังถูกน้ำท่วมสูง 20-50 เซนติเมตร ทำให้บ้านเรือนกว่า 2,000 หลัง สถานที่ราชการ โรงเรียนอย่างน้อย 7 แห่ง ต้องปิดทำการชั่วคราว ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา ชาวบ้าน ในพื้นที่ ต.บางแก้ว อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ต้องช่วยกันทำคันดินกั้นน้ำ หลังระดับน้ำในคลองบางแก้ว เพิ่มสูงท่วมนาข้าว และหากระดับน้ำสูงอีกจะเข้าท่วมพื้นที่นากว่า 10,000 ไร่ ใน 3 ตำบล
ขณะที่เจ้าหน้าที่แจ้งเตือนพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในหลายจังหวัดให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หลังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงไหลผ่าน จ.อ่างทอง เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ระบายน้ำเพิ่มเพื่อเตรียมพร้อมรับมือน้ำเหนือระลอก 2 จากอิทธิพลของพายุราอีที่ส่งผลให้มีฝนตกหนักทางภาคเหนือ การระบายลงสู่ท้ายเขื่อน อยู่ที่ 850 ลูกบาก์ศเมตรต่อวินาที และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก
ส่วนที่จังหวัดสุโขทัยสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายแล้ว สถานที่ราชการต่างๆ กลับมาเปิดให้บริการตามปกติ แต่ทางจังหวัดยังเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวัง และเตรียมรับน้ำท่วมฉับพลันต่อเนื่องหลังพบว่าฝนยังตกหนัก
ขณะที่หน่วยงานและชาวบ้านท่าเสา ต.ป่ามะคาบ อ.เมือง จ.พิจิตร นำเครื่องจักรเข้าซ่อมพนังกั้นน้ำ คลองท่าหลวง หลังน้ำป่าจากเทือกเขาวังทองไหลกัดเซาะจนพังทลาย แต่กระแสน้ำที่ไหลรุนแรง ทำให้ไม่สามารถซ่อมแซมได้ และน้ำยังคงไหลเข้าท่วมนาข้าวกว่า 500 ไร่
ส่วนที่จ.กำแพงเพชร นายธานี ธัญโภชน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ลงพื้นที่ต.ไตรตรึงษ์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร หลังน้ำล้นคลองเข้าท่วมชุมชนและถนน 3 วัน ล่าสุดน้ำเริ่มลดลง ขณะที่ทางจังหวัดเตรียมแก้ไขปัญหาระยะยาว ด้วยการเพิ่มท่อระบายน้ำ บริเวณชุมชนและทางหลวง เจ้าหน้าที่สำนักชลประทานที่ 3 เร่งสูบน้ำออกจากทุ่งนา ต.เขาดิน อ.เก้าเลี้ยว และต.หนองกระโดน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ หลังฝนตกหนัก ทำให้น้ำท่วมนาข้าวกว่าหมื่นไร่
สำหรับภาคใต้ นายเฉลิมศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ ประกาศเตือนเรือทุกประเภทให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงในระยะนี้ ส่วนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงทั้ง 8 อำเภอ ให้เฝ้าระวังอันตรายจากดินโคลนถล่ม เนื่องจากมีฝนตกสะสม ดินอุ้มน้ำไว้มาก
ขณะที่หาดปากเมง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ร้านค้าต้องปิดให้บริการ หลังลมพัดแรงทำให้ข้าวของและร้านค้าริมหาด เสียหายบางส่วน ส่วนบรรยากาศการท่องเที่ยวยังไม่คึกคักมากนัก
ทั้งนี้ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันตก คาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 19-22 กันยายนนี้ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้จะมีกำลังแรง ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนตกเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังแรง สูง 2-3 เมตร จึงขอให้ประชาชนและชาวเรือระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและคลื่นลมแรงด้วย

No comments:

Post a Comment